สนค. เปิดเวทีระดมความเห็นการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อขับเคลื่อนสินค้าสมุนไพรไทย

สนค. เปิดเวทีระดมความเห็นการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อขับเคลื่อนสินค้าสมุนไพรไทย

avatar

Administrator


90


<p><strong>ดาวน์โหลดข้อมูลฉบับเต็ม:&nbsp;</strong><a href="https://uploads.tpso.go.th/สนค. เปิดเวทีระดมความเห็นการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อขับเคลื่อนสินค้าสมุนไพรไทย.pdf" target="_blank">สนค. เปิดเวทีระดมความเห็นการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อขับเคลื่อนสินค้าสมุนไพรไทย.pdf</a></p>

<p><strong>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;</strong>สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ร่วมกับ ศูนย์นวัตกรรมสมุนไพรครบวงจร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และศูนย์กลางความรู้ต้นแบบด้านสมุนไพรเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน (Hub of Knowledge :Herbs for Sustainable Health and Well-Being) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ จัดประชุมสัมมนาเผยแพร่ผลการดำเนินงาน &ldquo;โครงการศึกษาเพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการสร้างเสถียรภาพและความเข้มแข็งทางการค้าสินค้าสมุนไพร&rdquo; ในวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์&nbsp;</p>

<p><strong>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;</strong>นางสาวณัฐิยา สุจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาฯ ว่า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) มีภารกิจในการชี้นำทิศทางเศรษฐกิจการค้าของประเทศ การจัดงานสัมมนาฯ ครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ &ldquo;จากองค์ความรู้สู่ตลาดโลก: เวทีขับเคลื่อนสมุนไพรไทยสู่เศรษฐกิจสุขภาพระดับนานาชาติ&rdquo; สอดคล้องกับทิศทางของกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มุ่งสร้างการรับรู้ด้านการตลาดภายใต้ Key Message &ldquo;Think Wellness Think Thai Herb คิดถึงสุขภาพ คิดถึงสมุนไพรไทย&rdquo;</p>

<p><strong>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;</strong>อุตสาหกรรมสมุนไพรไทย เป็นภาคส่วนที่เชื่อมโยงทั้งเศรษฐกิจชุมชนฐานราก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจบริการด้านสุขภาพ จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ประเทศไทยมีความได้เปรียบจากความหลากหลายทางชีวภาพ มีพืชสมุนไพรที่ใช้ประโยชน์แล้วกว่า 2,000 ชนิด และมีตำรับยาแผนไทยที่บันทึกไว้มากกว่า 16,000 ตำรับ ท่ามกลางการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Wellness) ทั่วโลก&nbsp;</p>

<p><strong>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;</strong>ข้อมูลจาก McKinsey &amp; Company พบว่าตลาด Wellness ทั่วโลก มีมูลค่าถึง 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ<sup>1</sup>&nbsp;และข้อมูลจาก Euromonitor ตลาดสมุนไพรในประเทศไทย มีมูลค่ากว่า 44,800 ล้านบาท<sup>???????2</sup> ในปี 2567 จึงเป็นโอกาสสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเมื่อผู้บริโภคยุคใหม่ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจมากขึ้นกับผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติและต้องได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งนโยบาย &quot;สมุนไพร Herbal Champions&quot; ของภาครัฐ ได้วางรากฐานเพื่อผลักดันสมุนไพรไทยสู่ตลาดโลกอย่างเต็มกำลัง</p>

<p><strong>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;</strong>อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยยังเต็มไปด้วยความท้าทาย ตั้งแต่ปัญหาการจัดการคุณภาพสินค้าตลอดห่วงโซ่การผลิต ยังมีข้อจำกัดด้านมาตรฐานการปลูก การแปรรูป การผลิต และระบบตรวจสอบย้อนกลับ ประกอบกับกระบวนการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ และการจดสิทธิบัตรที่ยังสามารถส่งเสริมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการสัมมนาฯ ในวันนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนวงการสมุนไพรไทยอย่างแท้จริง ทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้บริหารจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผู้บริหารจากบริษัทเอกชนชั้นนำในอุตสาหกรรม ผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมจากสถาบันการศึกษา ที่มาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์&nbsp;</p>

<p><strong>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;</strong>นอกเหนือจากการรับฟังมุมมองจากวิทยากรแล้ว หัวใจสำคัญของงานสัมมนาฯ คือการเปิดพื้นที่รับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสียทุกท่าน ที่มาร่วมกันสะท้อนปัญหาและต่อยอดความคิด เพื่อร่วมสร้างสรรค์นโยบายที่ตอบโจทย์ นำไปปฏิบัติ และแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง โดย สนค. และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จะนำข้อคิดเห็นที่ได้รับจากการสัมมนาฯ ในวันนี้ ไปใช้ประโยชน์ในการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายต่อไป</p>

<p><strong>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;</strong>นางสาวณัฐิยากล่าวทิ้งท้ายว่า สนค. เล็งเห็นถึงศักยภาพของสินค้าพืชสมุนไพรและผลิตภัณฑ์ ที่สามารถขับเคลื่อนสู่สินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง และยังเชื่อมโยงสู่สินค้าและธุรกิจบริการด้านสุขภาพ ที่จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดย สนค. จะนำผลลัพธ์จากการดำเนินงาน &ldquo;โครงการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการสร้างเสถียรภาพและความเข้มแข็งทางการค้าสินค้าสมุนไพร&rdquo; เสนอต่อคณะอนุกรรมการส่งเสริมภาพลักษณ์และการตลาดสมุนไพร ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อเสนอคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนต่อไป</p>

<hr />
<p><sup>1</sup> แหล่งที่มา: Callaghan, S., Doner, H., Medalsy, J., Pione, A., &amp; Teichner, W. (2024, January). The trends defining the $1.8 trillion global wellness market in 2024 [White paper]. McKinsey &amp; Company.<br />
<sup>2</sup> แหล่งที่มา: Euromonitor International. (2024). Herbal/Traditional Products in Thailand. Euromonitor International Passport. Retrieved from Euromonitor International database.</p>

ดาวน์โหลดข้อมูลฉบับเต็ม: 

          สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ร่วมกับ ศูนย์นวัตกรรมสมุนไพรครบวงจร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และศูนย์กลางความรู้ต้นแบบด้านสมุนไพรเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน (Hub of Knowledge :Herbs for Sustainable Health and Well-Being) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ จัดประชุมสัมมนาเผยแพร่ผลการดำเนินงาน “โครงการศึกษาเพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการสร้างเสถียรภาพและความเข้มแข็งทางการค้าสินค้าสมุนไพร” ในวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

          นางสาวณัฐิยา สุจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาฯ ว่า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) มีภารกิจในการชี้นำทิศทางเศรษฐกิจการค้าของประเทศ การจัดงานสัมมนาฯ ครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “จากองค์ความรู้สู่ตลาดโลก: เวทีขับเคลื่อนสมุนไพรไทยสู่เศรษฐกิจสุขภาพระดับนานาชาติ” สอดคล้องกับทิศทางของกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มุ่งสร้างการรับรู้ด้านการตลาดภายใต้ Key Message “Think Wellness Think Thai Herb คิดถึงสุขภาพ คิดถึงสมุนไพรไทย”

          อุตสาหกรรมสมุนไพรไทย เป็นภาคส่วนที่เชื่อมโยงทั้งเศรษฐกิจชุมชนฐานราก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจบริการด้านสุขภาพ จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ประเทศไทยมีความได้เปรียบจากความหลากหลายทางชีวภาพ มีพืชสมุนไพรที่ใช้ประโยชน์แล้วกว่า 2,000 ชนิด และมีตำรับยาแผนไทยที่บันทึกไว้มากกว่า 16,000 ตำรับ ท่ามกลางการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Wellness) ทั่วโลก 

          ข้อมูลจาก McKinsey & Company พบว่าตลาด Wellness ทั่วโลก มีมูลค่าถึง 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ1 และข้อมูลจาก Euromonitor ตลาดสมุนไพรในประเทศไทย มีมูลค่ากว่า 44,800 ล้านบาท???????2 ในปี 2567 จึงเป็นโอกาสสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเมื่อผู้บริโภคยุคใหม่ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจมากขึ้นกับผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติและต้องได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งนโยบาย "สมุนไพร Herbal Champions" ของภาครัฐ ได้วางรากฐานเพื่อผลักดันสมุนไพรไทยสู่ตลาดโลกอย่างเต็มกำลัง

          อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยยังเต็มไปด้วยความท้าทาย ตั้งแต่ปัญหาการจัดการคุณภาพสินค้าตลอดห่วงโซ่การผลิต ยังมีข้อจำกัดด้านมาตรฐานการปลูก การแปรรูป การผลิต และระบบตรวจสอบย้อนกลับ ประกอบกับกระบวนการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ และการจดสิทธิบัตรที่ยังสามารถส่งเสริมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการสัมมนาฯ ในวันนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนวงการสมุนไพรไทยอย่างแท้จริง ทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้บริหารจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผู้บริหารจากบริษัทเอกชนชั้นนำในอุตสาหกรรม ผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมจากสถาบันการศึกษา ที่มาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ 

          นอกเหนือจากการรับฟังมุมมองจากวิทยากรแล้ว หัวใจสำคัญของงานสัมมนาฯ คือการเปิดพื้นที่รับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสียทุกท่าน ที่มาร่วมกันสะท้อนปัญหาและต่อยอดความคิด เพื่อร่วมสร้างสรรค์นโยบายที่ตอบโจทย์ นำไปปฏิบัติ และแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง โดย สนค. และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จะนำข้อคิดเห็นที่ได้รับจากการสัมมนาฯ ในวันนี้ ไปใช้ประโยชน์ในการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายต่อไป

          นางสาวณัฐิยากล่าวทิ้งท้ายว่า สนค. เล็งเห็นถึงศักยภาพของสินค้าพืชสมุนไพรและผลิตภัณฑ์ ที่สามารถขับเคลื่อนสู่สินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง และยังเชื่อมโยงสู่สินค้าและธุรกิจบริการด้านสุขภาพ ที่จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดย สนค. จะนำผลลัพธ์จากการดำเนินงาน “โครงการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการสร้างเสถียรภาพและความเข้มแข็งทางการค้าสินค้าสมุนไพร” เสนอต่อคณะอนุกรรมการส่งเสริมภาพลักษณ์และการตลาดสมุนไพร ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อเสนอคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนต่อไป


1 แหล่งที่มา: Callaghan, S., Doner, H., Medalsy, J., Pione, A., & Teichner, W. (2024, January). The trends defining the $1.8 trillion global wellness market in 2024 [White paper]. McKinsey & Company.
2 แหล่งที่มา: Euromonitor International. (2024). Herbal/Traditional Products in Thailand. Euromonitor International Passport. Retrieved from Euromonitor International database.

เผยแพร่เมื่อวันที่ 09 สิงหาคม 2568